FIT FROM HOME ออกกำลังกายที่บ้านง่ายๆแต่ได้ผลจริง

การออกกำลังกายกลายเป็น  MUST DO IT ของคนยุคใหม่แทบจะทุกช่วงวัย

ในปีที่ผ่านมาเราเห็นผู้คนออกมาออกกำลังกายกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในยิมหรือในที่สาธารณะ

และในปี 2020 นี้ ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ต่างๆเข้ามาที่ทำให้เราไม่สามารถออกไปออกกำลังกายรับแดด รับลม

ในสวนสาธาณะหรือสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆมากมายที่ยิมได้เหมือนเมื่อก่อน

 

แต่ก็ใช่ว่าการออกกำลังกายที่บ้านนั้นจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อซะทีเดียว

เพราะการออกกำลังกายที่บ้านนั้นก็มีหลากสไตล์ หลายรูปแบบให้เราเลือกฟิตกันง่ายๆ

จะสลับรูปแบบการออกกำลังกายในแต่ละวันก็ยิ่งง่ายเข้าไปอีก

และจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีในปัจจุบัน  ที่เป็นเหมือนเทรนเนอร์คอยเทรนด์อยู่ข้างๆ

และยังสามารถจัดตารางการออกกำลังกายได้เองอย่างยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย

 

 

วันนี้ SUPERDRY ขอแนะนำวิธีออกกำลังกายที่บ้าน ที่จะช่วยให้คุณฟิตและ Challenge ตัวคุณให้

หันมาโฟกัสที่การดูแลสุขภาพของคุณมากขึ้น

โดยการออกกำลังกายที่เราจะแนะนำนั้น คือ การออกกำลังทางสตรีมมิ่ง 

ไม่ว่าจะเป็นทางแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ไลฟ์ทาง FB หรือ ช่อง Youtube

แม้แต่บนหน้าฟีดโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กของคุณ เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่คุณฟอลโล่อยู่

 ซึ่งอีกแง่ก็ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ดีในการออกกำลังกายให้คุณ

ที่เปิดให้เราได้เรียนทางสตรีมมิ่งได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นคาร์ดิโอ โยคะ เวท เทรนนิ่งและโปรแกรมเต้น

โดยระยะเวลาในการออกกำลังกายทางสตรีมมิ่ง มีความยืดหยุ่น ตั้งแต่ 15 – 40 นาที

โดยระยะเวลาการออกกำลังกายที่สั้นลงนั้น  เช่น HIIT workout ถ้าทำแบบถูกหลัก เพียงแค่ 20 นาที ก็เพียงพอ

ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เรา ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้เริ่มต้นหรือผู้ชำนาญแล้วก็ตาม

สามารถหาระดับที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายของตัวเองได้

 

มาเริ่มกันเลยครับ

 

  • Body weight

เป็นหนึ่งในเทรนด์ออกกำลังกายที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ด้วยการที่เป็นการออกกำลังกายที่ใช้เพียงน้ำหนักตัวของเรา

เป็นแรงต้านที่มาช่วยบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และอาศัยการเคลื่อนไหวที่หลากหลายทิศทาง

เพื่อบริหารร่างกายให้ครบส่วน ในบางครั้งอาจมีอุปกรณ์ง่ายๆ ร่วมด้วย เช่น ยางยืดออกกำลังกาย

เพื่อให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแกร่ง การออกกำลังกายแบบ bodyweight

สามารถทำได้สะดวกสบายและปรับให้เข้ากับเราได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ และยังคงปลอดภัยจากการบาดเจ็บ

และในปีนี้น่าจะมีคลาสออกใหม่ที่เน้นบอดี้เวทเทรนนิ่ง หรือผสมผสานกับการออกกำลังกายอื่นๆ เพื่อสร้างความสนุก

สร้างกล้ามเนื้อ และเบิร์นได้มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นบอดี้เวทจึงเป็นวิธีรีดไขมันที่บริหารในเวลาอันสั้น

แต่ก็ช่วยเบิร์นไขมันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ลองดูตัวอย่างส่วนหนึ่งของรูปแบบการออกกำลังด้วยวิธีบอดี้เวท

ซึ่งเรารวบรวมท่าที่ทำได้ไม่ยาก มา 4 ท่า ดังนี้

Push ups

 

 

Jumping Jacks

 

 

Plank

 

Mountain Climbers

• Yoga

 อีกหนึ่งวิธีออกกำลังกายที่ฮิตไม่หยุด เพราะโยคะนั้นเหมาะกับคนทุกวัย แก้ปัญหาสุขภาพได้

และยังเป็นการบริหารร่างกายให้ฟิตแอนด์เฟริ์มไปในตัว อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างสมาธิได้ด้วย

 โดยเทรนด์ออกกำลังกายแบบผสมผสานเพิ่มเข้ามาในปัจจุบันก็คือ Yoga HIIT, Yoga Pilates

ซึ่ง Yoga HIIT เป็นการผสมผสานระหว่างการกระตุ้นการเผาผลาญอย่างหนักหน่วงอย่าง HIIT (high-intensity interval

training) ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวของท่าโยคะ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและสามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างจริงจัง

 

 

 

 

  • HIIT

การเพิ่มการออกกำลังกายที่มีความเข้มสูง แทนที่จะทำชุดออกกำลังกาย bodyweight sets/reps จำนวนเท่ากัน

ระยะเวลาเท่ากัน หรือระดับความเข้มข้นเท่ากันในแต่ละครั้ง พยายามท้าทายตัวเอง ด้วยการฝึกความแข็งแกร่ง

ที่ระดับความเข้มสูงขึ้นจะทำให้คุณได้รับประโยชน์มากมาย

ซึ่งเมื่อทำ  HIIT อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด 85% คุณจะหายใจหนักเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ยากเช่นกัน

ระหว่างช่วงเวลาในการทำซ้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะอยู่ได้ประมาณ 30–60 วินาที และใช้เวลาพักที่เท่ากัน

ซึ่งทำให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ได้นานหลังจากการออกกำลังกายสิ้นสุดลง ณ จุดนี้คุณควรเหงื่อออก

และรู้สึกถึงการเผาไหม้ HIIT ใช้เวลาสั้นลง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

 

 

 

  • BOXING

เมื่อพูดถึงเทรนด์การออกกำลังกายที่ได้รับความสนใจมากขึ้นนั่นคือ “มวย”

การออกกำลังกายที่บ้านในปี 2020 ด้วยการชกมวยจะเป็นอะไรที่สร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นกว่าเคย

เพราะเป็นการออกกำลังที่เผาผลาญแคเลอรีมหาศาล และยังสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างดี

นอกนั้นยังช่วยในฝึกการทำงานที่สัมพันธ์กันระหว่างสายตาและสมองที่ไวขึ้น โดยเฉพาะการต่อยกระสอบทรายใบเล็ก

เพราะสมองและร่างกายคุณจะตอบสนองกันตลอดเวลา และช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด

ซึ่งช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายโดยรวม และช่วยลดความเครียด

โดยเริ่มจากการชกลม (Shadow Boxing) เพื่อเป็นการฝึกออกหมัดและท่าทางที่ถูกต้อง

ข้อดีของการชกลมนั้นจะรักษาน้ำหนักความแข็งแรงของร่างกาย ลองชกกับตัวเองในกระจก ประมาณ 15 นาที

และหลังจากนั้นลองเริ่มชกกระสอบกับกระสอบใบเล็กที่บ้านคุณ

 

 

 

จากการศึกษาพบว่า การออกกำลังกายนั้นลดความเครียดได้

และนับเป็นเครื่องมือที่ดีที่ได้ทั้งความแข็งแรงทางร่างกายและยังช่วยลดความเครียดความกระวนกระวายใจได้ด้วย

มีการออกกำลังกายที่ผสมผสานการฝึกสติและสมาธิเข้ามามากมาย ที่เห็นได้ชัดคือ โยคะ

เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยฝึกจิตใจ ควบคุมความรู้สึกนึกคิด ลมหายใจ ขณะออกกำลังกาย

วิธีเหล่านี้จะช่วยลดภาวะเครียด และช่วยเรื่องการนอนหลับได้อย่างดี

นอกจากนั้นยังช่วยช่วยพัฒนาอารมณ์ และต่อสู้กับโรคซึมเศร้า

เมื่อออกกำลังกายร่างกายจะปล่อยสารเอ็นโดรฟิน (endorphins) สารเคมีที่ให้ระดับสูงตามธรรมชาติ

และช่วยยกระดับอารมณ์ ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าตามธรรมชาติ

 

ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ออกกำลังกายแบบไหนก็ตาม เราเชื่อว่าแค่เริ่มต้นทำ และมีแรงบันดาลใจที่ดี

ยังไงสุขภาพที่ดี รูปร่างที่ดี ก็อยู่กับเราแน่นอน  

 

 

Credit

https://www.youtube.com/

https://www.freepik.com/